สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา (Institute of Marine Science, Burapha University) หรือ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ "พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน" อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวบางแสน หรือสถานที่ท่องเที่ยวชลบุรี ไม่ควรพลาด หากได้มีโอกาศแวะเวียนมาเยือนบางแสน ชลบุรี
สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา หรือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน แห่งนี้เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 30 ปี ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า มหาวิทยาลัยบูรพา บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่จัดแสดงเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทางทะเล สิ่งมีชีวิตและความเป็นอยู่ของสัตว์ทะเลชนิดต่างๆที่อาศัยอยู่ในเขตน่านน้ำของไทย
สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ สถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล
1. สถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม เป็นส่วนที่จัดแสดงเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตและความเป็นอยู่ของสัตว์ทะเลชนิดต่างๆที่อาศัยอยู่ในเขตน่านน้ำของไทย โดยหัวข้อต่างๆที่ให้ความรู้สามารถแบ่งออกได้เป็น 7 หัวข้อใหญ่ ได้แก่
- สัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตน้ำขึ้นน้ำลง
- ปลาในแนวปะการัง
- การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิต
- สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังน้ำเค็ม
- ปลาเศรษฐกิจ
- ปลารูปร่างแปลกและปลามีพิษ
- ปลาที่อาศัยในมหาสมุทร
2. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล แบ่งการจัดแสดงนิทรรศการออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรก จัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับพระราชกรณีกิจทางด้านการฟื้นฟู อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และด้านวิทยาศาสตร์การประมง
ส่วนที่สอง จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเรื่องราวของทะเล ระบบนิเวศ และสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในทะเล รวมทั้งความสำคัญของทะเลที่มีต่อมนุษย์
โชว์พิเศษ
สาธิตการดำน้ำให้อาหารปลา ตู้ปลาขนาดความจุ 1,000 ตัน ตื่นตาตื่นใจกับความน่ารักของปลาหมอทะเลในขณะที่ทานอาหารจากมือนักประดาน้ำ ที่ต้องป้อนอาหารให้ถึงปากปลาหมอทะเลที่มีน้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม
วันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) เวลา 14.30 น.
วันหยุดราชการ (เสาร์-อาทิตย์) ,วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.30 น. และ เวลา 14.30 น.
สอบถามรายละเอียดการเข้าชม
งานประชาสัมพันธ์ โทร (038) 391671-3 ต่อ 184,126 ได้ทุกวัน ไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.
เว็บไซต์
ประวัติความเป็นมา : สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา
- พ.ศ. 2512
- ก่อตั้ง พิพิธภัณฑ์สัตว์และสถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม โดยคณะอาจารย์ภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางแสน (วิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสนเดิม) และนิสิตอีกจำนวนหนึ่งโดย ดร.บุญถิ่น อัตถากร อดีตอธิบดีกรมการฝึกหัดครูและอดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้สนับสนุนการดำเนินโครงการดังกล่าว
- พ.ศ. 2513
- พิพิธภัณฑ์สัตว์และสถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม เปิดให้ประชาชนเข้าชมอย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2513
- พ.ศ. 2519
- 26 ตุลาคม 2519 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางแสน ได้กราบทูลเชิญสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ทรงประกอบพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์สัตว์และสถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม
- พ.ศ. 2523
- ตัวอาคารเดิมมีขนาดจำกัด ดร.ทวี หอมชงและคณะ ได้จัดทำโครงการขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อขยายกิจการของพิพิธภัณฑ์ฯ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เดือนกรกฎาคม รัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าในการจัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ทางทะเลเป็นมูลค่า 230 ล้านบาท
- พ.ศ. 2524
- เริ่มก่อสร้าง 1 ธันวาคม 2524 ณ บริเวณด้านหน้าของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตบางแสน ในเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่
- พ.ศ. 2525
- สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาเสด็จทรงวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2525
- พ.ศ. 2526
- การก่อสร้างแล้วเสร็จ และมีพิธีมอบให้แก่มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2526
- พ.ศ. 2527
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงกระทำพิธีเปิดศูนย์วิทยาศาสตร์ทางทะเล เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2527
- พ.ศ. 2528
- ศูนย์วิทยาศาสตร์ทางทะเลจัดทำโครงการเพื่อยกฐานะเป็นสถาบัน และได้รับอนุมัติให้เป็นสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2528
- พ.ศ. 2552
- ปรับปรุงขนาดตู้เลี้ยงปลาขนาดใหญ่ ปลาหมอทะเล, ปลาฉลามครีบดำ จากเดิมความจุน้ำ 200 ตัน ปัจจุบันสามารถจุน้ำได้ถึง 1,000 ตัน
- ปัจจุบัน
- ศูนย์เรียนรู้ใต้ทะเลบางแสน Bangsaen Aquriam ตู้เลี้ยงปลาขนาด 4,700 ตัน อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง
ข้อมูลทั่วไป : สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา
- ที่อยู่
- : 169 ถ.ลงหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี 20131
- โทรศัพท์
- : 0-3839-1671-3
- โทรสาร
- : 0-3839-1674
- Website
- : http://www.bims.buu.ac.th/
- : 0-3839-1674
- เวลาเปิดทำการ
- : เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 17.00 น.
- ค่าเข้าชม
- คนไทย เด็ก 30 บาท ผู้ใหญ่ 60 บาท
ชาวต่างชาติ เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 180 บาท